16 พ.ย. การใช้ AI และ Location Intelligence ในการพยากรณ์พฤติกรรมผู้บริโภคในธุรกิจค้าปลีก
สำหรับธุรกิจค้าปลีกนั้นแม้ผลิตภัณฑ์จะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด แต่ประสบการณ์ของลูกค้าก็สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ผู้บริหารธุรกิจค้าปลีกต่างขยายคำจำกัดความของประสบการณ์ของลูกค้าออกไปมากกว่า Touchpoint ที่มีอยู่เดิมแล้ว โดยปัจจุบันพวกเขาหันมาให้ความสนใจใน Physical experience และ Sensory experience ที่คำนึงถึงประสบการณ์ของลูกค้าเมื่อได้สัมผัสกับแบรนด์ไม่ว่าจากทางร้านค้า ออนไลน์ หรือทางโซเชียลมีเดีย
การมี Touchpoint มากมาย และข้อมูลของลูกค้าจำนวนมากที่มาจาก Digital transformation และ IoT ทำให้ธุรกิจค้าปลีกยุคนี้ต่างพร้อมประยุกต์ใช้ Machine learning โดย Machine learning จะช่วยเปลี่ยนข้อมูลของลูกค้า(ที่ยินยอมให้ใช้งาน)เป็นข้อมูลเชิงลึกเพื่อสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคลผ่านแบรนด์ของร้าน เช่น ลูกค้าที่สั่งอาหารโดยใช้แอปของร้าน ได้รับอาหารยื่นส่งให้ทันทีเวลาเดียวกับที่เขาเดินเข้ามาในร้าน ความแม่นยำขนาดนี้เป็นไปได้อย่างไร เป็นไปได้เพราะการผสมผสานความสามารถในการพยากรณ์ของ Machine learning และเทคโนโลยีอันแสนฉลาดของ Location intelligence โดยอัลกอริทึมของ Machine learning จะทำการวิเคราะห์ Data point นับล้านจากพฤติกรรมผู้บริโภคและจากการติดตาม Location data ในแอปพลิเคชันของร้านค้า จนพยากรณ์ได้อย่างแม่นยำว่าเมื่อไหร่ที่ลูกค้าคนนั้นจะเข้าร้าน โดยที่ไม่มีการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลในการติดตามตำแหน่งของบุคคลนั้นเลย
นายซัด เมนอน จาก อีเอสอาร์ไอ กล่าวว่า “AI คือเกมที่ใช้ข้อมูลเป็นพื้นฐาน แต่การพยากรณ์จะแม่นยำหรือไม่ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่นำมาใช้ฝึก AI prediction model นั้นต้องเป็นตัวแทนของกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการพยากรณ์อย่างแท้จริง”
ผู้ค้าปลีกที่มีหัวก้าวหน้าต่างกำลังหาวิธีใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีอยู่เพื่อการพยากรณ์ที่แม่นยำ เช่น ผู้บริโภคกำลังต้องการอะไร เมื่อไหร่ที่เขาต้องการ ผ่านช่องทางไหน และที่สำคัญคือที่ไหนที่มีสิ่งที่เขาต้องการ การนำ Location intelligence มาผสมผสานเข้ากับ Artificial intelligence จึงช่วยให้บริษัทปิดรูโหว่ระหว่างการคาดเดา Supply chain และความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภคได้สำเร็จ
ทุกวันนี้การวางแผนการขายขยายครอบคลุมทั่วทั้งเน็ตเวิร์คแบบ Dynamic iteration ซึ่งสะท้อนการวิเคราะห์แนวโน้มในแบบเรียลไทม์ ทั้งนี้ การพยากรณ์ Demand sensing ด้วยเทคโนโลยี Location intelligence และ AI ช่วยให้บริษัทพบความได้เปรียบในการแข่งขันและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า เห็นได้ว่าหลายบริษัทที่นำนวัตกรรมนี้มาใช้ได้รับความพึงพอใจจากลูกค้าเพิ่มขึ้น ทั้งยังได้เปรียบทางการแข่งขัน และเพิ่มคุณค่าให้แบรนด์ได้อีกด้วย นอกจากนั้น Machine learning ยังสามารถยกระดับประสบการณ์ของผู้บริโภคในรูปแบบอื่นได้ เช่น การใช้ GIS และ Machine learning นำทางผู้ขับขี่ไปที่ลานจอดรถสาธารณะที่ใกล้ที่สุดในเมืองที่มีความหนาแน่นสูง หรือร้านค้าปลีกรายใหญ่สามารถส่งข้อเสนอพิเศษผ่านทางแอปในขณะที่ลูกค้าเข้ามาภายในร้าน ดึงดูดลูกค้าได้ตรงใจตามโลเคชัน หรือตามประวัติหรือพฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้านั้น ๆ
“การนำ Location intelligence มาผสมผสานเข้ากับ Artificial intelligence ย่อมช่วยให้บริษัทปิดรูโหว่ระหว่างการคาดเดา Supply chain และความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภคได้สำเร็จ”
ค้นหาศักยภาพของเทคโนโลยี GIS กับการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม