พลิกโฉมธุรกิจ ด้วย 3 โซลูชัน GIS อัจฉริยะ – วางกลยุทธ์แม่นยำ จัดการทรัพย์สินมีประสิทธิภาพ พร้อมรองรับกฎเกษตรยุคใหม่

 

4 โซลูชัน GIS จาก Esri ที่ช่วยให้ธุรกิจคุณ “ตัดสินใจแม่นยำกว่าเดิม”

เมื่อ “แผนที่” กลายเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนธุรกิจ ทุกธุรกิจล้วนต้องตอบคำถามสำคัญ เช่น “จะขยายไปที่ไหนดี?” “ลูกค้าอยู่ตรงไหน?” “ทรัพย์สินของเราถูกใช้งานอย่างไร?” หรือแม้แต่ “จะรับมือกับน้ำท่วมอย่างไรให้กระทบธุรกิจน้อยที่สุด?” ไม่เพียงเท่านั้นในยุคที่ “ข้อมูลเชิงพื้นที่” หรือ GIS กลายเป็นหัวใจของการตัดสินใจทางธุรกิจ และเทคโนโลยี GeoAI เครื่องมือการวิเคราะห์ ได้พัฒนาก้าวล้ำไปมากกว่าการแสดงแผนที่ นำไปสู่การทำนายคาดการณ์ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  GIS จึงกลายเป็นโซลูชันทรงพลังที่ตอบโจทย์หลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจ การบริหารทรัพย์สิน ไปจนถึงการเกษตรยุคใหม่

มาดูกันว่า 3 โซลูชันเด่นจาก Esri ได้แก่ GIS for Business, GIS for Asset Management และ GIS for Precision Agriculture จะช่วยให้ธุรกิจของคุณก้าวนำได้อย่างไร

 

1.GIS for Business Analytics ขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้วย Location + AI

ช่วยให้คุณสามารถใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่และเทคโนโลยี AI เพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์ธุรกิจ ด้วยการวิเคราะห์เชิงลึกในด้านต่าง ๆ เพื่อวิเคราะห์ศักยภาพในแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนขยายสาขา เจาะกลุ่มลูกค้า หรือเพิ่มประสิทธิภาพของทีมขาย

Market Research and Planning การวิเคราะห์ศักยภาพตลาดและการวางแผนขยายธุรกิจ

  • Market Potential ค้นหาพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงตามปัจจัยที่กำหนด เช่น จำนวนประชากร กำลังซื้อ ความหนาแน่นของคู่แข่ง เพื่อระบุโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
  • Site & Suitability Analysis วิเคราะห์ข้อมูลพื้นที่ที่สนใจเพื่อหาศักยภาพของการให้บริการจากข้อมูลที่กำหนด เช่น ความสะดวกในการเข้าถึงสถานที่สำคัญและข้อมูลประชากร ทำให้เข้าใจบริบทโดยรอบนำไปสู่การเลือกการให้บริการที่เหมาะสมกับลูกค้า
  • Sale Forecasting คาดการณ์ยอดขายด้วย GeoAI และโมเดล AI ได้อย่างแม่นยำ

 

Marketing and Customer Analytics เข้าใจลูกค้าและวางแผนการตลาดได้แม่นยำขึ้น

  • Map Visualization แสดงข้อมูลลูกค้าบนแผนที่เพื่อวิเคราะห์ความหนาแน่นและกระจายตัวของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ ช่วยกำหนดกลุ่มเป้าหมายสำหรับโฆษณาหรือโปรโมชั่นได้ตรงจุด
  • Trade Area Analysis วิเคราะห์ขอบเขตการให้บริการของร้านค้าโดยอิงจากระยะทางหรือเวลาเดินทางของลูกค้า ช่วยให้เห็นช่องว่างที่ไม่ครอบคลุมหรือเป็นพื้นที่ซ้อนทับที่อาจแย่งลูกค้ากันเองระหว่างสาขา
  • Customer Clustering ใช้ GeoAI วิเคราะห์การกระจายตัวของลูกค้า แบ่งกลุ่มตามพฤติกรรมและปัจจัยประชากรศาสตร์ เพื่อเข้าใจความต้องการของลูกค้าแต่ละพื้นที่เพื่อปรับกลยุทธ์การตลาดให้เหมาะสม

 

Route Planning and Territory Management การจัดสรรพื้นที่ขายให้เหมาะสมและครอบคลุม

  • Territory Management การแบ่งพื้นที่การขายโดยอัตโนมัติตามขอบเขตที่กำหนด โดยใช้ข้อมูลที่สำคัญ เช่น ยอดขาย จำนวนลูกค้า และระยะทาง เพื่อให้มีการกระจายงานอย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและการกระจายทรัพยากร
  • Route Planning การวางแผนเส้นทางการเดินทางทั้งในส่วนของการขนส่งหรือทีมเซลส์ ลดต้นทุนค่าขนส่ง ลดการวิ่งงานซ้ำซ้อน และเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงลูกค้า

 

 

2.GIS for Asset Management จัดการทรัพย์สินให้เห็นภาพแบบ 3D และ Realtime

บริหารภาพรวมของอาคาร โครงสร้างพื้นฐาน และอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ในรูปแบบ 3 มิติ พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลแบบเรียลไทม์จาก CAD, BIM และ IoT Sensor เพื่อให้ผู้ดูแลสามารถติดตามสถานะและวางแผนงานได้อย่างแม่นยำ รวมถึงมุมของการบริหารจัดการความเสี่ยงในพื้นที่จากการจำลองสถานการณ์ภัยพิบัติอย่าง น้ำท่วม โดยอิงจากข้อมูลปริมาณน้ำฝนสะสม ค่าการระบาย และความสูงของพื้นที่(DEM) เพื่อจำลองสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในแต่ละช่วงค่า พร้อมคาดการณ์ผลกระทบในเชิงพื้นที่ต่อภาพรวมของการบริหารจัดการอาคาร สามารถเตรียมความพร้อมต่อเหตุฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที

  • Realtime Monitoring แสดงสถานะของอุปกรณ์หรือระบบต่าง ๆ แบบเรียลไทม์ ช่วยให้รู้ก่อนเกิดปัญหา
  • Preventive Maintenance วางแผนการบำรุงรักษาเชิงป้องกันตามรอบการใช้งานหรืออายุอุปกรณ์
  • Footfall & Traffic Analytics วิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานพื้นที่ในอาคาร เช่น ปริมาณผู้ใช้ในแต่ละจุด เพื่อดูศักยภาพและวางแผนปรับปรุงพื้นที่หรือเพิ่มความปลอดภัยในอาคาร
  • 3D Visualization & BIM Integration ผสานข้อมูล BIM และ CAD เพื่อดูโครงสร้างอาคาร อุปกรณ์ และตำแหน่งต่าง ๆ ได้ในรูปแบบ 3D

 

 

3.GIS for Disaster & Risk Management การบริหารความเสี่ยงและรับมือภัยพิบัติ

จำลองสถานการณ์แบบ 3 มิติ รับมือภัยพิบัติ พร้อมวางแผนลดความเสี่ยงล่วงหน้า

  • Flood Simulation จำลองสถานการณ์น้ำท่วมจากข้อมูลปริมาณฝนสะสมในพื้นที่ รวมกับข้อมูลความสูง และการระบายน้ำในพื้นที่ เพื่อแสดงสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นแต่ละค่าของปริมาณน้ำฝน
  • Flood Forecasting จำลองสถานการณ์น้ำท่วมในอนาคตจากการคาดการณ์น้ำหนุน น้ำหลาก ในพื้นที่ โดยใช้พารามิเตอร์ในการวิเคราะห์ที่มีความหลากหลายและปัจจัยสะท้อนการเกิดสถานการณ์ในพื้นที่
  • Risk Analysis แสดงการวิเคราะห์ผลกระทบจากข้อมูลสถานการณ์น้ำ ต่ออาคาร อุปกรณ์ในอาคารและพื้นที่โดยรอบทั้งในรูปแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ เพื่อใช้ในการประเมินความเสี่ยงและเตรียมแผนรับมือป้องกันเมื่อเกิดเหตุการณ์

 

4.GIS for Agriculture คาดการณ์ผลผลิต พร้อมรับมือกฎ EUDR ด้วยเกษตรอัจฉริยะ

ในยุคที่เกษตรกรรมที่เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทสำคัญทั้งนำมาใช้ในการคาดการณ์ผลผลิต แต่ยังรวมถึงการนำมาช่วยตรวจสอบความโปร่งใสและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม GIS for Agriculture เข้ามาเติมเต็มทุกมิติ ทั้งการวางแผนการเพาะปลูก การบริหารจัดการทรัพยากร และการติดตามตรวจสอบห่วงโซ่อุปทานให้สอดคล้องกับข้อกำหนดใหม่อย่าง EUDR

Crop Yield Prediction with AI ติดตามและคาดการณ์ผลผลิตด้วย AI

  • เครื่องมือ GeoAI กลุ่ม Deep Learning เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ Detect รูปแปลงและกิจกรรมแปลงเพาะปลูกตามชนิดพืช จากข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมหรือโดรน เพื่อดูการเจริญเติบโตของพืชในแต่ละแปลง โดยอาศัยปัจจัยจากข้อมูลเชิงพื้นที่และการวิเคราะห์ดัชนี เช่น ดัชนีพรรณพืช คุณภาพดิน น้ำ สภาพอากาศ การใช้ประโยชน์ที่ดิน ความชัน นำไปสู่การคาดการณ์ผลผลิตที่จะเกิดขึ้น

 

Supporting EUDR รองรับการตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าสำหรับการส่งออกพืชในกลุ่ม EU

  • สามารถวิเคราะห์ข้อมูลแปลงเพาะปลูก เพื่อตรวจสอบว่าพื้นที่นั้นไม่มีการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ตามข้อกำหนดของ EU
  • วิเคราะห์ Traceability ดูการเชื่อมโยงและวิเคราะห์ข้อมูลจากแปลงเกษตรถึงปลายทางการส่งออกสินค้า เพื่อแสดงความโปร่งใสในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่อุปทาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการอนุญาตส่งออกสินค้าไปยัง EU ได้

 

Sustainable Resource Management บริหารจัดการทรัพยากรให้ยั่งยืน

  • วางแผนการใช้น้ำอย่างเหมาะสมในแต่ละแปลงเพาะปลูก
  • ลดการใช้ทรัพยากรเกินความจำเป็น ด้วยข้อมูลเชิงพื้นที่ที่แม่นยำ