28 ส.ค. พลิกธุรกิจสู่ความสำเร็จด้วยข้อมูลเชิงลึก เพิ่มความเข้าใจลูกค้าในพื้นที่ และพฤติกรรมการบริโภค

เมื่อบริษัทกำลังมองหาลูกค้ารายใหม่ ผู้บริหารมี 2 ตัวเลือก คือ  ค้นหาลูกค้ารายใหม่ในตลาดเดิม หรือเพิ่มโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ โดยทั่วไปอย่างหลังมักจะน่ากลัวมากกว่า เนื่องจากการตัดสินใจทางธุรกิจนั้น เต็มไปด้วยความเสี่ยง สิ่งที่ผู้บริหารระดับสูงในอดีตใช้ในการตัดสินใจคืออัตราของกำไรที่มากขึ้น แต่ในปัจจุบันผลกำไรนั้นต่ำลง และการแข่งขันก็สูงขึ้น ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ ดังนั้นการแสวงหาและวิเคราะห์ข้อมูลการตลาดด้านต่างๆ เพื่อคาดการณ์ล่วงหน้า สามารถวางแผนยุทธศาสตร์การตลาดได้อย่างแม่นยำและได้เปรียบคู่แข่งขัน โดยต้องวิเคราะห์แนวโน้มทางการตลาดจากข้อมูลภายนอกต่างๆ

บริษัทต่างๆ กำลังใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์รูปแบบใหม่และการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในการเข้าสู่ตลาดใหม่ ผู้ค้าปลีก ธนาคาร ร้านอาหาร และบริษัทสินค้าบรรจุภัณฑ์ กำลังวิเคราะห์ข้อมูลเฉพาะพื้นที่นั้นๆ เพื่อทราบรายละเอียดในตลาดใหม่ๆ แต่ละแห่ง ธุรกิจเหล่านี้กำลังประเมินว่าข้อมูลประชากร พฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค และแนวโน้มทางเศรษฐกิจของตลาดจะเป็นตัวกำหนดภารกิจของพวกเขาอย่างไร การเลือกตลาดใหม่โดยอิงจากข้อมูลที่ตั้งเป็นรูปแบบของการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล Mike Rollings รองประธานฝ่ายวิจัยของบริษัท Gartner เพิ่งเขียนบทความเกี่ยวกับความต้องการข้อมูลและการวิเคราะห์ในยุคดิจิตอลว่า บริษัท ต่างๆ ที่ใช้ประโยชน์จากข้อมูลในการขับเคลื่อนธุรกิจ สามารถวางแผนยุทธศาสตร์การตลาดได้อย่างแม่นยำ และได้เปรียบคู่แข่งขัน ซึ่งมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 30% ต่อปี

บริษัทต่างๆ จำเป็นต้องใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่เพื่อหาตลาดที่มีศักยภาพ โดยใช้เครื่องมือในการวางแผนที่เรียกว่าระบบข้อมูลทางระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) เป็นการทำแผนที่ที่นำเสนอข้อมูลเชิงตำแหน่งมีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์เชิงพื้นที่และความสัมพันธ์ระหว่างแนวโน้มผู้บริโภค รูปแบบการใช้จ่าย และข้อมูลอื่น ๆ ในตลาดที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างผลลัพธ์ด้วยมุมมองใหม่ โดยผลลัพธ์การวิเคราะห์ทำให้เราเข้าใจภาพรวมของธุรกิจ การเชื่อมโยงของข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น สาขา ลูกค้าที่ใช้บริการ หรือแม้กระทั่งคู่แข่งที่มีอยู่ในพื้นที่ เพื่อตอบโจทย์การวิเคราะห์ธุรกิจได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ

Improving the Odds of Market Success

ผู้ค้าปลีกอาจวางแผนที่จะย้ายไปยัง 3 ตลาดใหม่โดย ตลาดหนึ่งอาจเจริญเติบโตได้ ตลาดที่สองอาจทำงานได้อย่างเพียงพอ และตลาดที่สามอาจล้มเหลว วันนี้ทุกธุรกิจที่ต้องการการเติบโตต้องมีความแม่นยำทางข้อมูลมากขึ้น การตัดสินใจที่ผิดพลาดอาจส่งผลต่อธุรกิจ ทั้งเงินลงทุนที่เสียไปเนื่องจากการเข้าสู่ตลาดที่ผิด และค่าเสียโอกาสหากที่เลือกตลาดไม่เหมาะสม

ผู้บริหารที่มีความชำนาญจะใช้การวิเคราะห์ข้อมูลมาแทนที่การคาดคะเน ด้วยเครื่องมือต่าง ๆ เช่น GIS ที่นำพวกเขาไปสู่ตลาดที่มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากที่สุด จาก Harvard Business Review ได้ระบุว่า การทำแผนที่ด้วย GIS นั้นช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลทั้งภาครัฐและเอกชนที่หลากหลาย รวมถึงข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ สถานที่ เช่น ที่ทำการไปรษณีย์ ธนาคารโรงเรียน และโรงพยาบาล ซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับค่านิยม ทัศนคติ และพฤติกรรมของกลุ่มต่าง ๆ เมื่อนำมารวมกัน จะได้ข้อมูลเชิงลึกที่ละเอียดและน่าเชื่อถือ ทำให้ผู้บริหารมีความมั่นใจในการดำเนินการตามแผนที่ได้วางไว้

OXXO’s Formula for Expansion Success

เชนร้านสะดวกซื้อเม็กซิกัน OXXO ใช้เทคโนโลยี GIS เพื่อขับเคลื่อนแผนการเติบโตทางการค้า ในปัจจุบัน oxxo มีสาขา 18,000 แห่ง และเปิดตัวใหม่ 1,300 ถึง 1,400 แห่ง ทุกปี OXXO วางแผนที่จะเพิ่มจำนวนร้านเป็นสองเท่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เอนริเก้ เอสปิโนซา ผู้จัดการฝ่ายการขยายธุรกิจของบริษัท กล่าวว่า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว OXXO ได้ขยายตลาดไปยังอเมริกาใต้ ในเปรู ชิลี และโคลัมเบีย

ความท้าทายของ บริษัท คือการเข้าใจความต้องการของคนในท้องถิ่นและเงื่อนไขทางธุรกิจในสามประเทศนี้ซึ่งไม่เคยทำธุรกิจมาก่อน แม้ว่าจะมีความคล้ายคลึงกันมากระหว่างเม็กซิโกและประเทศเหล่านี้ แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญเช่นกัน “ผู้คนที่เม็กซิโกหรือชิลีมีวิถีชีวิตที่คล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาในการรับประทานอาหาร และเวลาทำงานนั้นเป็นเวลาเดียวกัน” เอสปิโนซ่า กล่าว เช่น ระหว่างทางกลับบ้านหลังเลิกงาน OXXO มีโอกาสในการขายสินค้าไม่ว่าจะเป็น ของว่าง หรือ อาหารมื้อค่ำ ร้านค้า OXXO มีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่ ร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กสำหรับการซื้อระหว่างเดินทาง ร้านค้าขนาดใหญ่ใกล้กับร้านขายของชำ และสถานที่ที่รวมรูปแบบทั้งสองไว้ด้วยกัน ร้านค้าทั้งหมดจัดการธุรกรรมทางการเงิน เช่นการชำระบิล โอนเงิน และเติมเงินบัตรโทรศัพท์

เมื่อขยายไปยังประเทศเป้าหมายในอเมริกาใต้ OXXO จะต้องปรับเปลี่ยนแนวทาง ตัวอย่างเช่น บริษัทจะไม่สามารถใช้ร้านค้า“ มิเรอร์” ซึ่งเป็นเทคนิคทั่วไปในการวางแผนพื้นที่ใหม่ในเม็กซิโก ด้วยเทคนิคมิเรอร์ OXXO จะระบุลักษณะที่เกี่ยวข้องกับร้านค้าที่ประสบความสำเร็จ รวมถึงข้อมูลประชากรของคนในท้องถิ่น และการจราจร จากนั้น GIS จะแสดงตำแหน่งที่สะท้อนลักษณะเหล่านั้นในภูมิภาคอื่น นั่นหมายถึงทีมต้องการ Location Intelligence ในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจ ซึ่ง GIS ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างความเข้าใจด้านนั้น ช่วยให้ทีมสามารถทำแผนที่ความหนาแน่นของประชากร รูปแบบการจราจร อัตราการครอบครองรถยนต์ของประชากรในท้องถิ่น และการเปลี่ยนแปลงของประชากรในตลาดใหม่ ด้วย Location Intelligence ทำให้ผู้บริหาร OXXO มีความมั่นใจในการลงทุนที่สำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจ

Spotting Potential and Driving Success

บริษัทผลิตเบียร์รายใหญ่ระดับโลกกำลังขยายการจัดจำหน่ายสินค้าไปยังร้านค้าปลีกและร้านอาหารไปจนถึงการเปิดผับของตนเองในเมืองใหญ่ในหลายประเทศ ซึ่งต้องการข้อมูลเชิงลึกในท้องถิ่นเพื่อสร้างความมั่นใจว่ามีกลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับตลาดแต่ละแห่งที่เขาจะลงทุนหรือไม่

บริษัทผู้ผลิตเบียร์กำลังวางแผนว่าแบรนด์ของตนแข็งแกร่งพอที่จะเข้าไปในชุมชนที่ไม่น่าสนใจและทำให้เป็นที่นิยมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าได้หรือไม่ Location Intelligence ช่วยสร้างความมั่นใจได้มากขึ้น ด้วยการใช้ GIS บริษัทสามารถเห็นความนิยมของเบียร์ในละแวกใกล้เคียง  นักวางแผนสามารถตรวจสอบพฤติกรรมของประชากรในเวลากลางคืนพร้อมกับข้อมูลประชากร และข้อมูลจากร้านอาหารในพื้นที่อื่น ๆ และยังสามารถเห็นอัตราการเติบโตของประชากรในท้องถิ่น รายได้ และพฤติกรรมการบริโภคสินค้า ด้วยข้อมูลดังกล่าวพวกเขาสามารถสรุปศักยภาพในการสร้างรายได้ของพื้นที่ใกล้เคียงและในอนาคต จากสิ่งที่แผนที่ GIS บอก ช่วยผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำในการขยายสาขาต่อไป

Gaining the Competitive Edge: How It Could Work

นอกเหนือจากร้านค้าปลีกและร้านอาหาร ผู้นำในอุตสาหกรรมอื่น ๆ สามารถเพิ่มความมั่นใจในความสามารถของ Location Intelligence ตัวอย่างเช่น ผู้แทนจำหน่ายแผงหลังคาโซล่าร์ สามารถใช้ระบบขับเคลื่อน AI ในการแยกภาพและตรวจจับเพื่อจำแนกจำนวนหลังคาที่มองเห็น และแต่ละหลังคาทำงานได้ดีสำหรับแผงเซลล์แสงอาทิตย์หรือไม่ GIS สามารถพล็อตการวิเคราะห์นั้นบนแผนที่ แสดงพื้นที่ที่มีศักยภาพทางการตลาดต่ำ กลาง และสูง ระบบสามารถอ้างอิงข้ามสิ่งที่ค้นพบเหล่านั้น พร้อมกับการวิเคราะห์ข้อมูลประชากรในตลาดนั้นรวมถึงรายได้ของครัวเรือนและการจับจ่ายใช้สอย

ข้อมูลเพียงอย่างเดียวนั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นที่เป็นประโยชน์สำหรับ บริษัท โซล่าร์ เมื่อตัดสินใจว่าจะลงทุนในตลาดใด ผู้บริหารสามารถพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น คนรุ่นใหม่ที่ปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตัวแปรสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ พื้นที่ที่มีต้นทุนพลังงานสูง การทำแผนที่ จะแสดงตัวเลือกของไซต์ที่มีศักยภาพรวมถึงไซต์ที่มีประชากรน้อยกว่า แต่มีศักยภาพโดยรวมที่สูงขึ้น

บริษัทแผงโซลาร์เซลล์ยังสามารถเปรียบเทียบต้นทุนการให้บริการในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งรวมถึงการประเมินการบริการ ทรัพยากร และความสัมพันธ์กับบริษัทพลังงาน ที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาที่มีต่อลูกค้า ทำให้ บริษัทมีแนวโน้มการลงทุนที่น่าเชื่อถือมากขึ้น รวมถึงความคล่องตัวในสภาพแวดล้อมต่างๆ

ในขณะที่ Harvard Business Review ตอกย้ำว่า ยุคของการลดต้นทุนที่เคยยอมรับว่าเป็นเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้บริษัทประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง และบริษัทก็ไม่สามารถทดลองใช้แผนการขยายธุรกิจได้อีกต่อไป บริษัทยุคใหม่ ใช้ GIS และ AI (ปัญญาประดิษฐ์) เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในแผนการเติบโต วิเคราะห์แหล่งข้อมูลที่หลากหลายเพื่อนำพาบริษัทไปสู่ความสำเร็จ

ค้นหาศักยภาพของเทคโนโลยี GIS กับการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม

อ่านเพิ่มเติม