เทคโนโลยี GIS ช่วยผลักดันธุรกิจไปสู่ระบบที่ดีกว่าในการรับมือวางแผนการดำเนินงานในสถาณการณ์ COVID-19

เทคโนโลยี GIS ช่วยผลักดันธุรกิจไปสู่ระบบที่ดีกว่าในการรับมือและวางแผนการดำเนินงานในสถาณการณ์ COVID-19  ปรับปรุงความปลอดภัยในการทำงานในออฟฟิศรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นในด้านของความสามารถพนักงานและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในองค์กร และช่วยให้ธุรกิจยังคงดำเนินต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตการทำงานและการเข้าสังคมของประชาชน ผู้บริหารองค์กรจึงจำเป็นต้องวางแผนเพื่อหาแนวทางรูปแบบใหม่เพื่อสร้างความปลอดภัยและเห็นความสำคัญด้านสุขภาพในที่ทำงานเป็นหลัก โดยการนำ Location Intelligence  เข้ามามีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการ ผ่านการรายงาน และติดตามสถานการณ์ ทำให้เข้าใจผลกระทบขององค์กรที่เกิดขึ้นทั้งในด้านของบุคลากรในการทำงานและทรัพยากรหรือสิ่งอำนวยความสะดวกภายในองค์กร เช่น อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ในสำนักงานต่างๆ

ความท้ายทายหลักคือการพัฒนาระบบบันทึกข้อมูลที่จัดระเบียบอาคารและข้อมูลแผนผัง เพื่อช่วยในการบริหารจัดการ สินทรัพย์ภายในอาคาร รวมทั้งช่วยจัดการการบำรุงรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้บริหารจะต้องตระหนักถึงสถานะของสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อจัดการเหตุการณ์เหล่านั้น และมองว่าเทคโนโลยี GIS จะช่วยผลักดันธุรกิจไปสู่ระบบที่ดีกว่าในการรับมือและวางแผน อีกทั้งยังช่วยในการประกอบตัดสินใจได้ ไม่ว่าจะเป็นในด้านของความสามารถพนักงานและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในองค์กร

นำทางสู่โลกใหม่ของการทำงาน

ตัวอย่างของสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีการใช้แผนที่ในอาคาร (Indoor map) ใน 3 แง่มุม

  1. ส่วนแรกคือการตอบสนองโดยตรง ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับสถานที่ เช่น โรงพยาบาล ที่พักอาศัย และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บริษัทจำเป็นต้องเข้าใจถึงวิธีการปรับพื้นที่ภายในอาคารของพวกเขาให้เข้ากับระยะทางที่ปลอดภัย เพื่อช่วยให้ผู้ประชาชนค้นพบทรัพยากรที่พวกเขาต้องการ และสามารถทำความเข้าใจผลกระทบ แก้ไขปัญหา และสามารถกำหนดขั้นตอนด้านสุขภาพใหม่ ๆ
  2. การวางแผนพื้นที่ภายในอาคาร เมื่อพนักงานกลับมาทำงาน บริษัทจำเป็นต้องทำแผนที่กำหนดที่นั่งและขั้นตอนความปลอดภัย และเข้าใจว่าใครอยู่ในสำนักงาน และใครที่ไม่ได้อยู่ พวกเขาจำเป็นต้องรู้ว่าการบำรุงรักษานั้นดำเนินไปอย่างไรและระบบทางกายภาพนั้นทำงานอย่างไร
  3. การวิเคราะห์ขั้นสูงของสภาพแวดล้อมภายในอาคาร เช่น การเตรียมแผนการตอบสนอง แผนที่ในอาคารช่วยให้มองเห็นภาพการทำงานร่วมกันได้แบบ Real-time ช่วยให้บริษัทสามารถรักษาสถานที่ทำงานให้ปลอดภัย

 

ก่อนการระบาดของ COVID-19 บริษัทต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเนื่องจากทรัพย์สินเป็นค่าใช้จ่ายที่ใหญ่เป็นอันดับสองของพวกเขา และเพื่อลดปัญหาด้านกายภาพ เช่น พื้นที่อาคารไม่เพียงพอกับจำนวนบุคลากร พื้นที่ที่จัดให้ไม่เหมาะสมกับการทำงาน ทำให้หลายบริษัทหันมาให้ความสนใจกับทรัพยากรที่มีอยู่ โดยเฉพาะอาคารหรือพื้นที่สำนักงาน โดยเน้นใช้พื้นที่ทุกส่วนให้เกิดประโยชน์สูงสุด และปรับปรุงให้ใช้งานอย่างเหมาะสม การจัดพื้นที่ทำงานแบบใหม่โดยใช้พื้นที่ร่วมกัน หรือจัดสรรพื้นที่ใช้งานแบบไม่กำหนดเจ้าของ (hoteling) เป็นกลยุทธ์การจัดพื้นที่ทำงานรูปแบบใหม่ เพื่อการทำงานร่วมกันในแบบโรงแรม มีการจองล่วงหน้า กำหนดช่วงเวลาใช้งานตามความต้องการของพนักงานแต่ละคนอย่างชัดเจน รวมถึงมีระบบจัดการและตรวจสอบเวลาเข้าออก (check-in/check-out) ซึ่งระบบการทำงานเหล่านี้สามารถทำงานบนแผนที่แบบ interactive ที่จะช่วยลดระยะ Social Distance และสร้างความมั่นใจให้กับสังคม

ผู้บริหารรู้ว่าข้อมูลที่ดีสำคัญเพียงใดต่อการตัดสินใจ ดังนั้นพวกเขาจึงใช้เทคโนโลยี GIS ในการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้ม COVID-19 รวมถึงสถิติต่าง เช่น จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ตั้งแต่วันแรกจนถึงล่าสุดในแต่ละพื้นที่ รวมถึงสถานะของอัตราการติดเชื้อตั้งแต่เริ่มติดเชื้อจนถึงขั้นสุดท้าย ซึ่งทำให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจทราบถึงสถานที่ตั้งที่พวกเขาต้องการเพื่อวางแผนในแต่ละพื้นที่และข้อจำกัดที่เหมาะสมในการบังคับใช้ นอกจากนี้หลายบริษัทจะสร้างระบบการกลับเข้าทำงานรูปแบบใหม่  ยกตัวอย่างเช่น พนักงานที่นั่งทำงานอยู่ในออฟฟิสต้องไม่มากกว่า 40%  หรือปิดพื้นที่ส่วนกลาง และมีการจำกัดที่นั่งตามตามพื้นที่สำคัญ เช่น พื้นที่รับประทานอาหาร

แม้จะมีความพยายามอย่างเต็มที่ในการปกป้องความปลอดภัยพนักงาน แต่บริษัทก็ยังสามารถเผชิญกับสถานการณ์เสี่ยงที่พนักงานจะติดเชื้อ COVID-19 ซึ่งองค์กรจะจัดการกับสิ่งนั้นอย่างไร บริษัทบางแห่งใช้เทคโนโลยีการระบุตำแหน่งบนสมาร์ทโฟน เพื่อให้พนักงานรายงานตนเองได้ ระบบจะรายงานว่าพนักงานกำลังอยู่ที่ไหน ใครอยู่ในออฟฟิศและอยู่นอกสถานที่ ความสามารถในการทำแผนที่นี้รองรับการติดตามผู้ติดต่อขั้นพื้นฐานเนื่องจากการเช็คอินของพนักงานจะได้รับการบันทึกเป็นระยะเวลาหนึ่ง หากพนักงานมีการรายงานอาการติดเชื้อ ผู้จัดการจะสามารถย้อนกลับไปดูแผนที่ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาและดูว่าเพื่อนร่วมงานคนไหนที่อาจได้รับการติดต่อกับพนักงานคนดังกล่าว

ในช่วงการกลับมาทำงานนั้น สำหรับผู้บริหารองค์กรคงจะให้ความสนใจไปในเรื่องทำงานร่วมกันในรูปแบบใหม่ พวกเขาจำเป็นต้องรู้ว่ามีสำนักงานกี่แห่งที่พนักงานเริ่มกลับเข้ามาทำงาน และพื้นที่ใดจำเป็นต้องการทำความสะอาด และสำหรับพนักงาน เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้พนักงานจะต้องมีการปรับตัว มีขั้นตอนใหม่ๆ ที่จะต้องปฏิบัติตาม ซึ่งการมีระบบ Indoor map ติดตั้งบนสมาร์ทโฟนของพนักงานนั้นจะเพิ่มการรับรู้ของพนักงานให้มากขึ้น พนักงานจะได้รับข้อมูลที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นจุดตำแหน่งที่มีการวางเจลล้างมือ ไปจนถึงแผนที่นำทางไปยังห้องประชุมต่างๆ หรือห้องรับประทานอาหาร

ทั้งนี้เราจะเห็นว่าเทคโนโลยี GIS จะเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้พนักงานปลอดภัยในสภาพแวดล้อมใหม่ และช่วยให้ธุรกิจยังคงดำเนินต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

 

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันการบริหารจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจสำหรับรองรับสถานการณ์ COVID-19

(Coronavirus Business Continuity Solution)  >> คลิกที่นี่

 


 

ค้นหาศักยภาพของเทคโนโลยี GIS กับการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม

Read more