19 เม.ย. Case Study: การวางแผนเชิงกลยุทธ์ด้านโลเคชัน
การตัดสินใจใด ๆ ของธุรกิจเกือบทุกที่เปรียบได้กับการตั้งคำถาม What-if ตั้งแต่การริเริ่มวางแผนรายไตรมาส ไปจนกระทั่งคาดคะเนตลาดที่อาจจะขยายตัวเต็มที่ภายในสิบปีข้างหน้า ผู้มีอำนาจตัดสินใจย่อมรู้ดีว่าการมีข้อมูลไม่มากพอนั้นมีความเสี่ยงเพียงใด แต่ทุกวันนี้ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของ AI ช่วยกำจัดความเสี่ยงนั้นได้
การผสมผสานระหว่าง AI เข้ากับ Location intelligence กำลังเป็นที่สนใจของธุรกิจทั่วโลก เพราะใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่ที่อัพเดทจำนวนมาก มีเทคนิคการวิเคราะห์ที่ทันสมัย ทั้งยังมีความรู้ความชำนาญที่จะช่วยให้การตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลทำได้เป็นอย่างดี โดยในช่วงต้นได้ทดลองใช้ในอุตสาหกรรมบริการด้านการเงิน ก่อนที่จะขยายวงกว้างทั่วทั้งภาคการค้าในเวลาต่อมา
ในกรณีที่ต้องการวิเคราะห์สาขาธนาคารใหม่ในอนาคต การประมวลผลจะใช้เทคโนโลยี Location Intelligence, AI และความสามารถในการพยากรณ์ เพื่อแสดงให้ผู้บริหารทราบถึงศักยภาพที่อาจเป็นไปได้ของพื้นที่นั้น โดยผู้บริหารด้านการเงินอาจป้อนคำสั่งขอดูรายได้ตลอดทั้งปีของสาขาธนาคารในตลาดที่กำลังทำการประเมิน และได้คำตอบอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วินาที ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีเทคโนโลยี AI และ Computing การวิเคราะห์ทางธุรกิจยังมีขีดจำกัดอยู่มาก แต่ปัจจุบันบริษัทชั้นนำมากมายต่างกำลังทดลองใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ และเห็นถึงประโยชน์ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อแผนธุรกิจในระยะยาว
บางส่วนของการวิเคราะห์วิธีใหม่นี้จำเป็นต้องใช้การวิเคราะห์เวลาในการขับรถซึ่งเป็นฟีเจอร์หนึ่งของ GIS ด้วย เพราะการวิเคราะห์เวลาขับขี่มีการใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประชากรรอบ ๆ พื้นที่นั้น ซึ่งในที่นี้อาจเป็นสาขาธนาคารในอนาคต แล้วจึงแสดง Smart map เพื่อให้เห็นว่าลูกค้าของธนาคารสาขาอาจมีลักษณะอย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นความล้ำของ GIS และ AI ยิ่งทำให้การวิเคราะห์ทำได้ซับซ้อนยิ่งขึ้น ผู้บริหารจะไม่ได้เห็นเพียงแค่ภูมิศาสตร์ทางการค้าของสาขานั้น แต่ยังแสดงค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น และรายได้ที่คาดหวังได้อีกด้วย
ในธุรกิจค้าปลีกต่างเกิด Disruption มากมาย ผู้บริหารบางคนอาจกำลังวางแผนทำการขยาย ในขณะที่บางคนกำลังคิดปิดบางสาขา ซึ่งกุญแจสำคัญที่จะช่วยผู้บริหารวางแผนได้อย่างเฉียบคมนั่นก็คือข้อมูลเชิงลึก และด้วยวิธีใหม่ที่มีความเหนือชั้นทั้งในการพยากรณ์และความเร็ว ย่อมช่วยให้การวิเคราะห์ What-if scenario พาธุรกิจก้าวหน้าอย่างมั่นคง ซึ่งการวิเคราะห์นั้นก็ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของแต่ละธุรกิจ เช่น คุณอาจต้องการเปรียบเทียบร้านค้าต่าง ๆ ที่มีศักยภาพโดยดูยอดขายที่คาดหวังของแต่ละร้านค้าและตัดสินใจเลือกโลเคชันที่ดีที่สุด หรือคุณอาจวาดเครือข่ายของหลาย ๆ สาขา ร่วมกันโดยใช้การประมวลผลเพื่อหลีกเลี่ยงการทับซ้อนของยอดขายของแต่ละสาขา และทราบถึงยอดขายทั้งหมดหากรวมเป็นเครือข่ายเดียว
ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีทั้ง AI, Location intelligence ที่ขับเคลื่อนด้วย GIS และความสามารถด้าน Computing ทำให้การวิเคราะห์แบบ What-if scenario เติบโตขึ้นและซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ ในโลกที่การแข่งขันเข้มข้นขึ้นทุกวัน หากปราศจากข้อมูลเชิงลึกแบบใหม่นี้ ผู้บริหารอาจต้องเผชิญกับการวางแผนการลงทุนที่ล้าหลังด้วยการใช้สัญชาตญาณและการคาดเดาเพียงเท่านั้น
ค้นหาศักยภาพของเทคโนโลยี GIS กับการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม