12 พ.ย. เข้าใจการติดอาวุธธุรกิจด้วยเทคโนโลยี GIS
ตอนนี้การติดอาวุธธุรกิจด้วยเทคโนโลยีเริ่มสำคัญมากขึ้น ดังนั้นลองมารู้จัก “เทคโนโลยี GIS” อาวุธใหม่ที่จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก หาทำเลเยี่ยมเพื่อธุรกิจจากการใช้แผนที่ ผ่านมุมมองของ “ธนพร ฐิติสวัสดิ์” ผู้จัดการทั่วไปของ Esri Thailand
รู้จักและเข้าใจเทคโนโลยี GIS
เทคโนโลยี GIS คืออะไร? หลายคนอาจจะไม่รู้จักหรือคุ้นเคยกับเทคโนโลยีนี้ แต่ทราบหรือไม่ว่าเทคโนโลยี GIS หรือเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ มีการใช้งานมายาวนานทั้งในระดับโลกและประเทศไทย โดยมี Esri เป็นผู้นำของการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว
ธนพร ฐิติสวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไปของ Esri Thailand เล่าให้ฟังว่า เทคโนโลยี GIS (Geographic Information System) หรือเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ คือการนำข้อมูลบนแผนที่ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งที่ตั้ง, เส้นถนน, อาคาร, ความหนาแน่นของประชากร หรือข้อมูลใดๆ ก็ตามที่สามารถอยู่บนแผนที่ได้ ไปวิเคราะห์เพื่อหาข้อมูลเชิงลึกให้เกิดประโยชน์ ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ แสดงผลลัพธ์ในรูปแบบแผนที่หรือแดชบอร์ดที่เข้าใจง่าย
“จะเรียกว่าเทคโนโลยี GIS ได้ ต้องประกอบด้วย 5 ส่วนคือ อุปกรณ์ต่างๆ (hardware), คน (people), กระบวนการทำงาน (process), ข้อมูลพื้นฐาน (data) เช่น แผนที่กับข้อมูลเฉพาะธุรกิจ และสุดท้ายคือ ซอฟต์แวร์ (software) ที่ช่วยประมวลผลทั้งหมด ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาย่อมมีมากกว่าข้อมูลแผนที่สองมิติแน่นอน เพราะมันจะประกอบด้วยมิติข้อมูลมากมาย และใช้ประโยชน์ได้หลายแง่มุม”
เทคโนโลยี GIS กับธุรกิจค้าปลีก
การทำธุรกิจค้าปลีก เรื่องสถานที่ตั้งหรือทำเล มีความสำคัญอย่างมากต่อธุรกิจนี้ หากนำเทคโนโลยี GIS ไปใช้งานกับกลุ่มธุรกิจค้าปลีกเพื่อวางแผนการปรับ-รวม-ย้ายสาขา การใช้ฐานข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งที่ตั้งสาขา และสาขาของคู่แข่ง และข้อมูลเฉพาะธุรกิจ เช่น ข้อมูลที่อยู่ของลูกค้า ข้อมูลการซื้อสินค้าที่สาขา มาประมวลผลพร้อมกับข้อมูลแผนที่ คำตอบที่ออกมาก็จะทราบว่าสาขาไหนควรปิดหรือเปิด รวมทั้งขยายพื้นที่หรือย้ายศูนย์ให้บริการเพิ่มเติมที่ไหน เพื่อเป็นประโยชน์กับธุรกิจมากที่สุด
“ปกติแล้วการจะได้ข้อมูลเพื่อมาวิเคราะห์ว่าค้าปลีกควรจะปรับ-รวม-ย้าย สาขาที่ไหน องค์กรเหล่านั้นต้องส่งคนจำนวนมากเพื่อสำรวจพื้นที่ และต้องใช้เวลานานกว่าจะประมวลผลเสร็จ แต่หากองค์กรเหล่านั้นหันมาใช้เทคโนโลยี GIS พวกเขาสามารถกรองข้อมูลได้ 80% ทันที ทำให้ลดต้นทุนและระยะเวลาในการสำรวจลงได้อัตโนมัติ”
ทั้งนี้ Esri Thailand ใชั NOSTRA เป็นแผนที่พื้นฐาน เพราะแผนที่ดังกล่าวถูกสำรวจ และพัฒนาโดยคนไทย ข้อมูลจึงมีความละเอียดและถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นในพื้นที่กรุงเทพฯหรือต่างจังหวัด โดยประมวลผลบน ArcGIS ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ผลิตและจำหน่ายโดยบริษัทแม่ในสหรัฐอเมริกา มีโซลูชันต่างๆ ที่พัฒนามากว่า 50 ปี ทั้งยังลงทุนต่อยอดงานวิจัยและพัฒนาต่างๆ ถึง 30% ของรายได้ ทำให้เทคโนโลยี GIS ของบริษัทมีประสิทธิภาพสูง และเป็นซอฟต์แวร์อันดับ 1 ที่ใช้ในแวดวงผู้ใช้งาน GIS
Retail Solution โดย ArcGIS
ส่วน Retail Solution ของ Esri ใช้ความสามารถของซอฟต์แวร์ ArcGIS เปรียบเทียบข้อมูลธุรกิจอดีตกับปัจจุบัน ทั้งในมิติของข้อมูล ตัวเลข และมิติของตำแหน่งที่ตั้ง รวมถึงแสดงข้อมูลคาดการณ์อนาคต ช่วยวิเคราะห์ที่ตั้งสาขาที่มีอยู่ รวมถึงความคุ้มค่าหลังจากนี้ และยังช่วยวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดต่างๆ ผ่านแนวโน้มพฤติกรรม และพื้นที่กระจุกตัวของผู้บริโภค
ระบบดังกล่าวสามารถแบ่งออกเป็น 2 โซลูชันคือ
- Market Planning and Site Analysis หรือการวิเคราะห์ข้อมูลโดยเน้นที่กลุ่มเป้าหมายที่สนใจ พร้อมวิเคราะห์ทำเลศักยภาพที่ตั้งของสาขา เพื่อใช้ในการตัดสินใจปรับ-รวม-ย้ายสาขาไปยังตำแหน่งที่ต้องการ โดยทั้งหมดนี้จะแสดงผลบนแผนที่ตามค่าข้อมูลต่างๆ ที่ระบุเข้าไป
- Trade Area and Zone Planning การวิเคราะห์พื้นที่การขายและการให้บริการจากตำแหน่งสาขา หรือจุดให้บริการ เพื่อป้องกันการเกิดพื้นที่ทับซ้อน ผ่านการกำหนดตัวแปรจากเกณฑ์ยอดขายหรือระยะเวลา นอกจากนี้ยังสามารถประยุกต์ใช้กับบริการเดลิเวอรี่เพื่อควบคุมต้นทุนการขนส่ง รวมถึงแผนในการสร้างระบบกระจายสินค้า
“การบุกตลาดด้วย Retail Solution ของ Esri จะสื่อสารในรูปแบบ Location Intelligence อธิบายให้ง่ายขึ้น คือ การใช้ประโยชน์จากความอัจฉริยะของข้อมูลเชิงพื้นที่ ซึ่งคำนี้ช่วยสร้างความเข้าใจ และมีความหมายที่ตรงกว่าเทคโนโลยี GIS เพราะคำนี้จะช่วยให้ผู้รับสาส์นรู้ทันทีว่าเราสามารถนำข้อมูลทุกอยู่อย่างที่อยู่บนพื้นที่มาวิเคราะห์เพื่อให้คำตอบต่างๆ แก่พวกเขา”
ธุรกิจอื่นๆ ก็ใช้งานเทคโนโลยี GIS
ขณะเดียวกันธุรกิจอื่นๆ เริ่มมีการใช้เทคโนโลยี GIS มากขึ้น เช่นธุรกิจธนาคาร ใช้เพื่อวิเคราะห์การปรับสาขา รูปแบบการให้บริการ กับวิเคราะห์สินเชื่อเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย หรือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ใช้เพื่อวิเคราะห์พื้นที่ในการเปิดโครงการต่างๆ เมื่อมีหน่วยงาน องค์กร หรือคน ที่รู้จักเทคโนโลยี GIS เพิ่มขึ้น จึงเห็นการใช้งานที่หลากหลาย ซึ่งจากเดิมที่เทคโนโลยี GIS จะถูกใช้ในหน่วยงานรัฐเป็นส่วนใหญ่ เช่น การบริหารจัดการระบบสาธารณูปโภค วางระบบไฟฟ้า วางระบบประปา และระบบสายสื่อสาร รวมทั้งระบบการบริหารจัดการที่ดิน เป็นต้น
“ตลาดเทคโนโลยี GIS เริ่มเติบโต แต่บุคลากรด้านนี้ยังไม่เพียงพอ ทำให้ Esri Thailand พยายามเข้าหาสถานบันการศึกษาต่างๆ พุ่งเป้าไปที่ภาคการตลาด เพื่อช่วยให้ความรู้ในเรื่องนี้ รวมถึงการประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างมุมมองใหม่ให้เด็กๆ ที่จะเติบโตและเข้าทำงานในภาคธุรกิจต่างๆ รวมทั้งสร้างผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีให้พร้อมใช้งาน GIS ได้ทันทีที่ก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงาน เช่น โปรแกรมเมอร์ นักภูมิศาสตร์ และวิศวกรสำรวจ”
นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยี GIS ไปใช้งานในประเทศไทยยังมีกรณีน่าสนใจ เช่น การป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลในพื้นที่นั้นๆ ว่ามีการระบาดของโรคหรือไม่ หรือมีแนวโน้ม มีความเสี่ยงในการระบาดในพื้นที่ใดโดยมีข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ที่คอยวัดอุณหภูมิ ร่วมกับข้อมูลแผนที่ และความหนาแน่นของครัวเรือนในการวิเคราะห์
สรุป
เทคโนโลยี GIS เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากๆ เพราะขนาดแอปพลิเคชันนำทาง และระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ก็ใช้เทคโนโลยีนี้ ดังนั้นการทราบถึงประโยชน์ และการเปิดใจใช้งานเทคโนโลยี GIS ก็น่าจะช่วยติดอาวุธให้กับองค์กรธุรกิจต่างๆ ได้ไม่น้อย ทั้งช่วยวิเคราะห์และวางแผนด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง ช่วยลดเวลาและต้นทุน ธุรกิจต่างๆ สามารถแข่งขันและปรับตัวให้ผ่านพ้นวิกฤตในปัจจุบัน และอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ค้นหาศักยภาพของเทคโนโลยี GIS กับการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม
อ่านเพิ่มเติม