องค์กรต่างๆ ทั่วโลก ล้วนต้องเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากวิกฤตการณ์โคโรนาไวรัส 2019 (COVID-19) ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจในเกือบทุกๆ แง่มุม เพื่อให้ยังคงประสบความสำเร็จและอยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมใหม่นี้ องค์กรขนาดใหญ่จึงต้องมีการเตรียมแผนรับมือเพื่อป้องกันและประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นไปได้ โดยใช้หลักการบริหารจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Management) สำหรับรองรับเหตุการณ์วิกฤตที่คาดไม่ถึงอย่างสถานการณ์ COVID-19 ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งทำให้องค์กร สามารถรับมือกับเหตุการณ์วิกฤตต่างๆ ได้อย่างมีระบบแบบแผน เป็นการลดความเสียหายให้น้อยลง หรือไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นเลย อีกทั้งจะช่วยให้องค์กรมีรายได้ต่อเนื่องในขณะที่เกิดเหตุการณ์วิกฤตเกิดขึ้น
เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดจึงมีการประยุกต์โดยการนำ Location Intelligence เข้ามามีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการ ผ่านการรายงานและติดตามสถานการณ์ ทำให้เข้าใจผลกระทบขององค์กรที่เกิดขึ้นในด้านของความสามารถพนักงานและ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในและภายนอกองค์กร เช่น อุปกรณ์ เครื่องมือ หรือ สาขาการให้บริการ โดยสามารถเผยแพร่ข้อมูลให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าใจและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เป็นปัจจุบันได้ มาพร้อมแอปพลิเคชันพร้อมใช้งาน ที่จะทำให้คุณสามารถนำไปปรับใช้กับองค์กรของคุณได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เป็นปัจจุบันและในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Report and Monitor
Understand and Act
Communicate
การรายงานและติดตามสถานการณ์จากผลกระทบด้านบุคลากรในการทำงาน
(Workforce Capacity Impacts)
เนื่องจากภายใต้สถานการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุม และอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาจากมาตรการของภาครัฐที่ออกมาอย่างรวดเร็วเพื่อควบคุมสถานการณ์ และเมื่อเกิดขึ้นองค์กรต้องรู้ว่าใครยังสามารถทำงานได้และพนักงานทำงานอยู่ที่ไหน เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์และการตัดสินใจให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยการให้พนักงานสามารถเช็คอินด้วยตนเองทุกวัน หรือให้ผู้บังคับบัญชาเช็คอินภายในทีมของตนเอง รวมทั้งการรายงานสุขภาพของพนักงาน ซึ่งขึ้นอยู่กับ Privacy ขององค์กรนั้นๆ ในการดูแลเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลพนักงาน
โดยสามารถปรับแต่งฟอร์มแบบสอบถามเพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ยังสามารถเข้ามาดูการรายงานผลได้ผ่านแดชบอร์ดส่วนบุคคล หรือแบบทีมได้อีกด้วย
การรายงานและติดตามสถานการณ์จากผลกระทบด้านทรัพยากรหรือสิ่งอำนวยความสะดวกภายในองค์กร (Facilities Impacts)
การระบาดใหญ่ของ COVID-19 ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการเพื่อควบคุมประชาชน
ไม่ว่าจะเป็นการสั่งปิดสถานที่ให้บริการต่างๆ เพื่องดการเดินทาง และมาตรการ Social Distancing
ส่งผลกระทบต่อสิ่งอำนวยความสะดวกภายในองค์กรต่างๆ เช่น ทรัพยากรของบริษัท หรือแม้แต่สาขาของธุรกิจ
รวมถึงปัจจัยอื่นๆ
ดังนั้นองค์กรจำเป็นต้องมีวิธีการเพื่อทำความเข้าใจสถานะของสิ่งอำนวยความสะดวกและปัจจัยเหล่านี้
อีกทั้งยังสามารถเผยแพร่ข้อมูลให้ทั้งภายในและภายนอกตามความเหมาะสม
ผ่านแอปพลิเคชันที่ช่วยรายงานสถานะของสิ่งอำนวยความสะดวก
ซึ่งพนักงานสามารถใช้แดชบอร์ดในการตรวจสอบสถานะสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีผลกระทบต่อธุรกิจ
ดูรายละเอียดการเปิด ปิดสาขา รวมถึงตรวจสถานะอุปกรณ์และเครื่องมือที่สามารถใช้ยามฉุกเฉิน
การรายงานและติดตามสถานการณ์จากผลกระทบด้านทรัพยากรหรือสิ่งอำนวยความสะดวกภายในองค์กร (Facilities Impacts)
การระบาดใหญ่ของ COVID-19 ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการเพื่อควบคุมประชาชน
ไม่ว่าจะเป็นการสั่งปิดสถานที่ให้บริการต่างๆ เพื่องดการเดินทาง และมาตรการ Social Distancing
ส่งผลกระทบต่อสิ่งอำนวยความสะดวกภายในองค์กรต่างๆ เช่น ทรัพยากรของบริษัท หรือแม้แต่สาขาของธุรกิจ
รวมถึงปัจจัยอื่นๆ
ดังนั้นองค์กรจำเป็นต้องมีวิธีการเพื่อทำความเข้าใจสถานะของสิ่งอำนวยความสะดวกและปัจจัยเหล่านี้
อีกทั้งยังสามารถเผยแพร่ข้อมูลให้ทั้งภายในและภายนอกตามความเหมาะสม
ผ่านแอปพลิเคชันที่ช่วยรายงานสถานะของสิ่งอำนวยความสะดวก
ซึ่งพนักงานสามารถใช้แดชบอร์ดในการตรวจสอบสถานะสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีผลกระทบต่อธุรกิจ
ดูรายละเอียดการเปิด ปิดสาขา รวมถึงตรวจสถานะอุปกรณ์และเครื่องมือที่สามารถใช้ยามฉุกเฉิน
การรายงานและติดตามสถานการณ์จากผลกระทบด้านทรัพยากรหรือสิ่งอำนวยความสะดวกภายในองค์กร (Facilities Impacts)
การระบาดใหญ่ของ COVID-19 ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการเพื่อควบคุมประชาชน
ไม่ว่าจะเป็นการสั่งปิดสถานที่ให้บริการต่างๆ เพื่องดการเดินทาง และมาตรการ Social Distancing
ส่งผลกระทบต่อสิ่งอำนวยความสะดวกภายในองค์กรต่างๆ เช่น ทรัพยากรของบริษัท หรือแม้แต่สาขาของธุรกิจ
รวมถึงปัจจัยอื่นๆ
ดังนั้นองค์กรจำเป็นต้องมีวิธีการเพื่อทำความเข้าใจสถานะของสิ่งอำนวยความสะดวกและปัจจัยเหล่านี้
อีกทั้งยังสามารถเผยแพร่ข้อมูลให้ทั้งภายในและภายนอกตามความเหมาะสม
ผ่านแอปพลิเคชันที่ช่วยรายงานสถานะของสิ่งอำนวยความสะดวก
ซึ่งพนักงานสามารถใช้แดชบอร์ดในการตรวจสอบสถานะสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีผลกระทบต่อธุรกิจ
ดูรายละเอียดการเปิด ปิดสาขา รวมถึงตรวจสถานะอุปกรณ์และเครื่องมือที่สามารถใช้ยามฉุกเฉิน
การเพิ่มช่องทางการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ (Communicate)
มีช่องทางการสื่อสารข้อมูลเพื่อให้ทราบสถานะการดำเนินงานปัจจุบันว่ายังดำเนินการอยู่หรือไม่ สามารถเผยแพร่ข้อมูลผ่านทาง Coronavirus Business Continuity Hub ซึ่งเป็นเว็บไซต์เทมเพลตที่ถูกออกแบบให้ง่ายต่อการใช้งานและเผยแพร่ข้อมูลภายในองค์กร
เทคโนโลยี GIS ช่วยผลักดันธุรกิจไปสู่ระบบที่ดีกว่าในการวางแผนการดำเนินงานในสถานการณ์ COVID-19
ปรับปรุงความปลอดภัยในการทำงานในออฟฟิศรูปแบบใหม่ เพื่อช่วยให้ธุรกิจยังคงดำเนินต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
สร้างความยืดหยุ่นทางธุรกิจท่ามกลางการระบาดของ COVID-19
ขั้นตอนที่บริษัทต่างๆ สามารถดำเนินการเพื่อทำความเข้าใจถึงความเสี่ยงและเตรียมพร้อมสำหรับวิกฤตทั่วโลก
ข้อมูลที่เชื่อถือได้ช่วยให้ธุรกิจตอบสนองต่อสถานการณ์ COVID-19 ได้ดียิ่งขึ้น
ตัวอย่างของอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ใช้ข้อมูล GIS และแอปพลิเคชันในการดำเนินงานธุรกิจในช่วงวิกฤตการณ์ COVID-19
ธุรกิจต่างๆกำลังมองหาความชัดเจนในสถานการณ์ COVID-19
การนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง เข้าใจง่าย และการสื่อสารกับลูกค้าหรือประชาชนนั้นเป็นสิ่งจำเป็นที่ธุรกิจหรือหน่วยงานต่างๆ ควรให้ความสำคัญในการวางแผนเพื่อให้การดำเนินงานต่างๆ เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
องค์กรต่างๆ ทั่วโลก ล้วนต้องเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากวิกฤตการณ์โคโรนาไวรัส 2019 (COVID-19) ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจในเกือบทุกๆ แง่มุม เพื่อให้ยังคงประสบความสำเร็จและอยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมใหม่นี้ องค์กรขนาดใหญ่จึงต้องมีการเตรียมแผนรับมือเพื่อป้องกันและประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นไปได้ โดยใช้หลักการบริหารจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Management) สำหรับรองรับเหตุการณ์วิกฤตที่คาดไม่ถึงอย่างสถานการณ์ COVID-19 ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งทำให้องค์กร สามารถรับมือกับเหตุการณ์วิกฤตต่างๆ ได้อย่างมีระบบแบบแผน เป็นการลดความเสียหายให้น้อยลง หรือไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นเลย อีกทั้งจะช่วยให้องค์กรมีรายได้ต่อเนื่องในขณะที่เกิดเหตุการณ์วิกฤตเกิดขึ้น
เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดจึงมีการประยุกต์โดยการนำ Location Intelligence เข้ามามีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการ ผ่านการรายงานและติดตามสถานการณ์ ทำให้เข้าใจผลกระทบขององค์กรที่เกิดขึ้นในด้านของความสามารถพนักงานและ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในและภายนอกองค์กร เช่น อุปกรณ์ เครื่องมือ หรือ สาขาการให้บริการ โดยสามารถเผยแพร่ข้อมูลให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าใจและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เป็นปัจจุบันได้ มาพร้อมแอปพลิเคชันพร้อมใช้งาน ที่จะทำให้คุณสามารถนำไปปรับใช้กับองค์กรของคุณได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เป็นปัจจุบันและในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Report and Monitor
Understand and Act
Communicate
การรายงานและติดตามสถานการณ์จากผลกระทบด้านบุคลากรในการทำงาน
(Workforce Capacity Impacts)
เนื่องจากภายใต้สถานการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุม และอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาจากมาตรการของภาครัฐที่ออกมาอย่างรวดเร็วเพื่อควบคุมสถานการณ์ และเมื่อเกิดขึ้นองค์กรต้องรู้ว่าใครยังสามารถทำงานได้และพนักงานทำงานอยู่ที่ไหน เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์และการตัดสินใจให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยการให้พนักงานสามารถเช็คอินด้วยตนเองทุกวัน หรือให้ผู้บังคับบัญชาเช็คอินภายในทีมของตนเอง รวมทั้งการรายงานสุขภาพของพนักงาน ซึ่งขึ้นอยู่กับ Privacy ขององค์กรนั้นๆ ในการดูแลเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลพนักงาน
โดยสามารถปรับแต่งฟอร์มแบบสอบถามเพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ยังสามารถเข้ามาดูการรายงานผลได้ผ่านแดชบอร์ดส่วนบุคคล หรือแบบทีมได้อีกด้วย
การรายงานและติดตามสถานการณ์จากผลกระทบด้านทรัพยากรหรือสิ่งอำนวยความสะดวกภายในองค์กร (Facilities Impacts)
การระบาดใหญ่ของ COVID-19 ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการเพื่อควบคุมประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการสั่งปิดสถานที่ให้บริการต่างๆ เพื่องดการเดินทาง และมาตรการ Social Distancing ส่งผลกระทบต่อสิ่งอำนวยความสะดวกภายในองค์กรต่างๆ เช่น ทรัพยากรของบริษัท หรือแม้แต่สาขาของธุรกิจ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ดังนั้นองค์กรจำเป็นต้องมีวิธีการเพื่อทำความเข้าใจสถานะของสิ่งอำนวยความสะดวกและปัจจัยเหล่านี้ อีกทั้งยังสามารถเผยแพร่ข้อมูลให้ทั้งภายในและภายนอกตามความเหมาะสม ผ่านแอปพลิเคชันที่ช่วยรายงานสถานะของสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งพนักงานสามารถใช้แดชบอร์ดในการตรวจสอบสถานะสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีผลกระทบต่อธุรกิจ ดูรายละเอียดการเปิด ปิดสาขา รวมถึงตรวจสถานะอุปกรณ์และเครื่องมือที่สามารถใช้ยามฉุกเฉิน
การเพิ่มช่องทางการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ (Communicate)
มีช่องทางการสื่อสารข้อมูลเพื่อให้ทราบสถานะการดำเนินงานปัจจุบันว่ายังดำเนินการอยู่หรือไม่ สามารถเผยแพร่ข้อมูลผ่านทาง Coronavirus Business Continuity Hub ซึ่งเป็นเว็บไซต์เทมเพลตที่ถูกออกแบบให้ง่ายต่อการใช้งานและเผยแพร่ข้อมูลภายในองค์กร
เทคโนโลยี GIS ช่วยผลักดันธุรกิจไปสู่ระบบที่ดีกว่าในการวางแผนการดำเนินงานในสถานการณ์ COVID-19
ปรับปรุงความปลอดภัยในการทำงานในออฟฟิศรูปแบบใหม่ เพื่อช่วยให้ธุรกิจยังคงดำเนินต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
สร้างความยืดหยุ่นทางธุรกิจท่ามกลางการระบาดของ COVID-19
ขั้นตอนที่บริษัทต่างๆ สามารถดำเนินการเพื่อทำความเข้าใจถึงความเสี่ยงและเตรียมพร้อมสำหรับวิกฤตทั่วโลก
ข้อมูลที่เชื่อถือได้ช่วยให้ธุรกิจตอบสนองต่อสถานการณ์ COVID-19 ได้ดียิ่งขึ้น
ตัวอย่างของอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ใช้ข้อมูล GIS และแอปพลิเคชันในการดำเนินงานธุรกิจในช่วงวิกฤตการณ์ COVID-19
ธุรกิจต่างๆกำลังมองหาความชัดเจนในสถานการณ์ COVID-19
การนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง เข้าใจง่าย และการสื่อสารกับลูกค้าหรือประชาชนนั้นเป็นสิ่งจำเป็นที่ธุรกิจหรือหน่วยงานต่างๆ ควรให้ความสำคัญในการวางแผนเพื่อให้การดำเนินงานต่างๆ เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ